21:14
bob
Review Nintendo Wii สุดยอดเครื่องเล่นเกมสำหรับครอบครัว | ||
 | ||
| มาแล้วคร๊าบบ รีวิวเครื่องเครื่องเกม Next – Gen สำหรับครอบครับที่หลายๆคนรอคอย Nintendo Wii ความจริงรีวิวน่าจะได้ขึ้นเร็วกว่านี้แต่ตัวผมดันติดธุระต่างๆเยอะแยะไปหมด กว่าจะเคลียร์ได้ก็แทบแย่เหมือนกัน เครื่อง Wii ที่ได้มาทดสอบในครั้งนี้เป็นเวอร์ชั่น US นะครับ ตรงนี้ต้องขอขอบคุณทาง Nadz Project ร้านเกมที่เพื่อนๆในเว็บของเรารู้จักกันดี ซึ่งใจดีนำมาให้ผมได้ทดลองเล่นกันถึงที่บ้านเลยทีเดียว^^ (ขอบคุณครับคุณแอ๊ด) | ||
 | ||
| ||
| ครั้งแรกที่ได้สัมผัสตัวเครื่องรู้สึกได้เลยว่าขนาดแตกต่างจากที่ จินตนาการไว้มากเลยครับ ตอนแรกที่ดูภาพจากเว็บและนิตยสารต่างๆคิดว่าน่าจะเล็กกว่า Xbox 360 อยู่นิดหน่อย แต่ที่ไหนได้ตัวจริงขนาดพอๆกับ External DVD Drive เท่านั้นเอง(เล็กมากๆเลยครับ) แถมตัวเครื่องยังทำออกมาได้เนี๊ยบและสวยงามมากเลยทีเดียวครับ | ||
 | ||
ในการติดตั้งเครื่อง Wii นั้นเราสามารถนำมาติดตั้งได้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งการติดตั้งในแบบแนวตั้งนั้นเราจะต้องใช้ฐานรองที่มีมาให้เข้ามาช่วยด้วย ครับ(ไม่แนะนำให้ตั้งเพียวๆ) เพราะฐานรองจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับตัวเครื่องนั่นเอง เวลาที่โดนชนหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้ไม่ล้มง่ายๆครับ | ||
 | ||
| ทางด้านบนจะมีช่องสำหรับต่อจอย Game Cube กับ Memory ถ้าใครอยากเล่นเกมของ Game Cube ละก็สามารถนำมาเล่นได้เลยนะครับ (ชอบ Nintendo ตรงที่ไม่ทิ้งลูกค้าเก่าจริงๆเลย) ทางด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power ปุ่ม Reset แล้วก็ปุ่ม Eject เรียงกันอยู่ในแนวตรงถัดจากปุ่มต่างๆไปเล็กน้อยก็จะเป็นช่องใส่แผ่นเกม ซึ่งจะเป็นแบบ Slot-In (ดูดแผ่น) ตรงจุดนี้ทำให้เครื่องดูไฮโซขึ้นเยอะเลยทีเดียว อ้อ...เกือบลืมไปตรงส่วนกลางจะมีช่อง Card Reader สำหรับใส่ SD Card ด้วยนะครับ | ||
 | ||
 | ||
พูดถึงตัวเครื่องแล้วทีนี้มาดูทางด้าน Wii Remote กับจอย Nunchuk กันบ้าง ตัวจริงผมว่าดูน่าใช้กว่าในรูปทั้งคู่เลยครับ สีของอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นสีขาวเข้ากับตัวเครื่อง (เพื่อให้รู้ว่าเกิดมาคู่กันจริงๆ^^) | ||
 | ||
มาพูดถึง Wii Remote กันก่อน เห็นหน้าตาคล้ายกับรีโมท TV ที่บ้านแบบนี้แต่ก็จับได้กระชับมือได้ดีทีเดียว(ถึงแม้จะไม่เท่ากับจอย Nunchuk ก็เถอะ) เวลาใช้งานจริงเราต้องใช้สายคล้องข้อมือด้วยนะครับเพื่อเป็นการป้องกันเวลา ที่เราอินไปกับเกมตัว Wii Remote จะได้ไม่หลุดมือไปโดนสิ่งของหรือคนที่อยู่ข้างๆ (เหมือนที่เป็นข่าวกัน^^) | ||
 | ||
การใช้งานก็ง่ายดายมากเลยครับเพียงแค่ขยับ Wii Remote ไปมาตามการใช้งานของแต่ละเกมแล้วก็กดปุ่มตามที่กำหนดเท่านั้น เพราะในตัวของ Wii Remote เองนั้นจะมี Sensor สำหรับจับความเคลื่อนไหวอยู่ในตัวแล้ว เราจึงไม่ต้องไปกดปุ่ม D-Pad กันให้เมื่อย นอกจากนี้ตัว Wii Remote เองยังมีลำโพงในตัวอีกด้วยเวลาที่เล่นเกมต่างๆก็จะมีเสียงออกมาตามที่เกม กำหนด เช่น ถ้าเราตีเบสบอลก็จะมีเสียงไม้กระทบลูกดังออกมาด้วย | ||
 | ||
ปุ่มต่างๆบน Wii Remote จะมีทั้งหมด 9 ปุ่มด้วยกันคือ ปุ่ม Power , D-Pad , A, B, Home, +, -, 1 และ2 | ||
 | ||
 | ||
 | ||
ส่วนทางด้านจอย Nunchuk คู่ขา Wii Remote จะเน้นไปทางด้านการบังคับทิศทางเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ทาง Nintendo จึงได้ดีไซน์ออกมาให้จับได้ถนัดมือมากๆตำแหน่งของปุ่มต่างๆก็ทำออกมาได้ อย่างลงตัว ทดสอบจากการเล่นเกม Zelda สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วเลยละครับ ปุ่มต่างๆบนจอย Nunchuk จะมีทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกันคือ ปุ่ม Analog Stick , C และ Z | ||
 | ||
 | ||
นี่คือพระเอกคนสำคัญ sensor barวางไว้บริเวณหน้าจอ TV ห้ามหายโดยเด็ดขาด หายไปเล่น Wii ไม่ได้แน่ๆ | ||
 | ||
สาย AV ที่แถมมากับตัวเครื่อง | ||
 | ||
| สายไฟที่ให้มาเป็นของต่างประเทศต้องเสียบเข้ากับหม้อแปลงขนาดใหญ่พอๆกับ UPS ของเครื่อง PC เลยทีเดียว | ||
 | ||
| นี่แหละครับหม้อแปลงที่ว่าหนักพอดู | ||
 | ||
เกมที่ผมได้มาทดสอบจะมี 2 เกมคือ Wii Sports ที่แถมมากับตัวเครื่อง แล้วก็ The Legend of Zelda: Twilight Princess เกมที่มีผู้คนเฝ้ารอเล่นมากที่สุดเกมหนึ่ง | ||
     | ||
มาพูดถึงเกม Wii Sports กันก่อน ในเกมนี้เราสามารถนำตัวละครของเราที่สร้างจาก Mii Channel มาใช้ได้ด้วยนะครับ (จะเป็นการเก็บ Level ไปในตัวถ้าเรานำตัวละครของเราออกมาเล่น) กีฬาในเกมมีให้เลือกเล่นทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกัน คือ เทนนิส เบสบอล โบลว์ลิ่ง กอล์ฟ และมวยครับ เมื่อเข้าเกมมาเราจะเจอหน้าจอหลัก ทางซ้ายจะมีให้เลือกเล่นกีฬาประเภทต่างๆ ส่วนทางด้านขวามีโหมด Training (รูปที่ยกน้ำหนัก)กับ Wii Fitness (รูปกราฟ) โหมด Trainingเอาไว้ฝึกครับ เข้าไปแล้วจะมีให้ฝึกซ้อมเล่นกีฬาประเภทต่างๆ ส่วนโหมด Wii Fitness จะเป็นโหมดวัดความฟิตของเราว่าอยู่ในระดับไหน โดยตัวเกมจะให้เราเล่นกีฬาประเภทต่างๆเสร็จแล้วจะสรุปคะแนนออกมาว่าความฟิต ของเรานั้นเทียบได้กับคนอายุเท่าไหร่ (คล้ายๆกับ Brain age เลยครับ) | ||
 | ||
 | ||
 | ||
ทีนี้มาดูทางด้านเกมกีฬาต่างๆกันบ้างเริ่มต้นด้วยเทนนิส เกมนี้สามารถเล่นพร้อมกันได้มากถึง 4 คนเลยทีเดียวครับ แต่ผมได้ Wii Remote มาอันเดียวก็เลยเล่นได้แค่คนเดียวครับ แต่ถึงจะเล่นแค่คนเดียวเวลาเล่นก็จะเป็นแบบคู่อยู่ดีนะครับ ซึ่งเราจะสามารถบังคับได้ทั้งตัวหน้าและตัวหลัง(เหมือนกับการเล่น 2 คนแต่ใช้ Wii Remote แค่อันเดียว) การตีก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเพียงแค่ถือ Wii Remote ไว้แล้วก็คอยสบัดมือตีลูกเมื่อลูกเทนนิสลอยมาอยู่ใกล้ตัวเท่านั้นเอง ในเกมนี้เราสามารถตีลูกต่างๆได้อย่างกับถือไม้จริงๆเลยนะครับทั้งลูกตบ ลูกงัด ลูกตัด ลูกหยอด ต้องลองเล่นดูแล้วจะรู้ว่าเป็นเกมที่ช่วยออกกำลังใช้ได้เลยทีเดียว | ||
 | ||
 | ||
 | ||
เกมเบสบอลเป็นเกมที่ผมชอบมากที่สุดใน 5 เกมเลยละครับ เพราะเป็นเกมที่เวลาเล่นแล้วทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสนามจริงๆได้มาก ที่สุดนั่นเอง เกมนี้เล่นได้ 2 คนพร้อมกันจะเป็นแบบผลัดกันตีผลัดกันขว้าง ส่วนการวิ่งเก็บเบสและการเก็บลูกเบสบอลนั้นตัวเกมจะจัดการให้เองโดย อัตโนมัติ การตีลูกในเกมนี้จะเหมือนจริงมากๆตรงเวลาที่ลูกกระทบไม้ถ้าลูกโดนไม้ใน ตำแหน่งไหนลูกก็จะพุ่งสะท้อนไปตามมุมที่ถูกกระทบนั้น เช่น ถ้าเราอยากจะตี Home Run เราจะต้องพยายามเหวี่ยงไม้ (Wii Remote) ตีลูกให้งัดขึ้นประมาณ 45 องศา หากแรงที่ตีพอดีเราก็จะสามารถทำ Home Run ได้อย่างไม่ยากนัก(แต่กว่าจะตีได้มุมที่ต้องการก็เหวี่ยงไม้กันปวดแขนเลยละ ครับ) ไม่ควรตีงัดมากจนเกินไปเพราะจะทำให้เป็นลูกโด่งผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก็จะ สามารถรับได้ง่าย หรือถ้าไม่อยากเหวี่ยงแขนเราก็สามารถยื่นไม้ไปรอลูกเลยก็ได้แต่ลูกที่ตีโดน จะกระดอนไปไม่ไกลจากตัวเรานัก ในการขว้างลูกถึงแม้จะได้รับความสนุกไม่เท่ากับการตีแต่ก็สามารถใช้ลูกเล่น ต่างๆเพิ่มความสนุกได้เหมือนกัน ถ้าขว้างไปตรงๆเลยจะเป็นลูกธรรมดา แต่ถ้ากดปุ่ม A ไปด้วยจะเป็นลูกสกรู กดปุ่ม B ก็จะเป็นลูกโค้ง และกด A,B พร้อมกันจะเป็นการขว้างลูกต่ำ ถึงในเกมเราจะทำได้เพียงแค่ตีกับขว้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของเกมนี้ลดลงเลยครับ | ||
 | ||
 | ||
 | ||
โบลว์ลิ่งเป็นอีกเกมนะครับที่ผมชอบรองลงมาจากเบสบอล และเป็นเกมที่เล่นได้พร้อมกันถึง 4 คนโดยใช้ Wii Remote แค่อันเดียว เพราะการเล่นโบลว์ลิ่งนั้นจะเป็นการเล่นโดยผลัดกันโยนนั่นเอง ก่อนการโยนตัวเกมจะให้เราเลือกตำแหน่งและทิศทางการโยนพอเลือกเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาโยนแล้วละครับและแน่นอนเราจะต้องทำท่าให้เหมือนจริงด้วย วิธีการโยนคือให้เรากดปุ่ม B ค้างไว้จากนั้นก็เหวี่ยง Wii Remote ไปทางด้านล่างแล้วก็เหวี่ยงขึ้นมาทางด้านบนพร้อมกับปล่อยปุ่ม B ตอน ที่โยนแนะนำให้ดูขาของตัวละครเราด้วยนะครับจะช่วยในการกะจังหวะการปล่อยลูก ได้ง่าย สำหรับตอนที่ปล่อยลูกถ้าข้อมมือเราเบี้ยวหรือเอนไปทางไหนลูกโบลว์ ลิ่งก็จะไซด์ไปตามมือของเราด้วยนะครับ | ||
 | ||
 | ||
เกมกอล์ฟผมว่าเป็นเกมที่เล่นได้ยากที่สุดใน 5 เกมเลยละครับ เพราะเป็นเกมที่เน้นการวาดวงสวิงเป็นหลัก ก่อนการตีจะมีให้เราซ้อมวงสวิงได้เรื่อยๆโดยในการสวิงแต่ละครั้งเราต้องวัด ความแรงกับเกจพลังทางด้านซ้ายไว้ด้วย เพราะถ้าเราตีแรงเกินเกจจะทำให้ทิศทางของลูกที่ตีออกไปเบี้ยวไม่ตรงกับที่ เราเล็งไว้ครับ เมื่อเราซ้อมวงสวิงจนเข้าที่เข้าทางแล้วต้องการจะตีลูกก็ให้กดปุ่ม A แล้ววาดวงสวิงได้เลย ไม้ในเกมที่มีให้เลือกใช้นั้นจะมีอยู่ 4 ไม้ด้วยกันคือ Driver, Iron, Wedge, Putter สามารถนำมาเลือกใช้ได้ตามสถาณการณ์เลยนะครับ เวลาที่เล่นเกมนี้ตอนที่พัทจะทำให้ผมหงุดหงิดพอสมควรเพราะพัทเท่าไหร่ก็ไม่ ลงหลุมซักที เลยบ้าง ไม่ถึงบ้าง ใครที่จะเล่นแนะนำให้ซ้อมวงสวิงให้ชินก่อนนะครับจะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิด เหมือนผม^^ | ||
 | ||
 | ||
 | ||
เกมมวยเป็นเกมที่เล่นแล้วเหนื่อยที่สุดจากทั้งหมด 5 เกม ระบบการเคลื่อนไหวของเกมนี้ทำออกมาได้เหมือนมวยจริงๆมาก ซึ่งมีทั้งการตั้งการ์ดบน-ล่าง การโยกตัวซ้าย ขวา หน้า หลังเพื่อช่วยในการหลบหลีกและการโจมตี จะขาดแต่เพียงฟุตเวิคเท่านั้นเองที่ไม่มีให้ใช้ เป็นเกมเดียวที่ต้องใช้จอย Nunchuk เข้าช่วยเพราะเราสามารถชกได้ทั้ง 2 มือ(ซ้ายและขวา) โดยเราจะต้องกำจอย Nunchuk ไว้ที่มือซ้าย กำ Wii Remote ไว้ที่มือขวา การชกในเกมนี้ทำออกมาได้เหมือนจริงอีกแล้วครับ วิธีการชกคงไม่ต้องบอกกันมาก(น่าจะชกเป็นกันทุกคน^^) เวลาที่เราเล่นเกมนี้ก็เหมือนกับการชกลมนั่นแหละครับ เราสามารถทำท่าชกได้เหมือนจริงทุกอย่างเลยทั้งหมัดฮุค หมัดแย็บ หมัดอัปเปอร์คัท เมื่อคู่ต่อสู้การ์ดบนเราก็ต้องฮุคลำตัว เมื่อคู่ต่อสู้การ์ดล่างเราก็ใช้หมัดอัปเปอร์คัท อันนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนนะครับ ความรู้สึกเวลาเล่นเกมนี้ผมว่าตัว Sensor มันช้าๆยังไงไม่รู้ครับ หมัดที่ชกออกไปแล้วบางทีก็ไม่ยอมออก รึจะเป็นที่ตัวผมชกไม่ดีก็ไม่รู้ | ||
 | ||
 | ||
 | ||
ความรู้สึกหลังจากที่ได้สัมผัสเกม Wii Sports นั้นให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเล่นแบบใช้แต่ปุ่มกดมากเลยละครับ การเล่นโดยใช้การเคลื่อนไหวเข้าช่วยแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกมีส่วนร่วมเหมือน ได้เข้าไปอยู่ในเกมจริงๆทำให้อรรถรสในการเล่นเกมเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยที เดียว และนอกจากจะสนุกแล้วยังได้ออกกำลังไปในตัวด้วยนะครับ เพราะรูปแบบการเล่นในแต่ละเกมนั้นกำหนดให้เราต้องเคลื่อนไหวกันพอสมควรเลยละ เล่นเกมแล้วสุขภาพดีไปด้วยแบบนี้มีที่ไหน และยิ่งถ้าเล่นเกมนี้กับเพื่อนๆด้วยแล้วละก็จะเพิ่มความสนุกได้อีกเป็นเท่า ตัว (ถ้าเล่นออนไลน์ได้ด้วยจะดีมากเลยนะครับเนี่ย^^ ) ไม่ผิดหวังเลยครับกับเกมที่แถมมากับเครื่องเกมนี้ | ||
 | ||
มาพูดถึงเกม The Legend of Zelda: Twilight Princess กันบ้าง ก็อย่างที่รู้กันนะครับว่าภาคนี้เคยมีโครงการจะลงให้กับเครื่อง Game Cube มาก่อนแต่เมื่อทาง Nintendo มีโครงการที่จะวางจำหน่ายเครื่อง Wii ซึ่งเป็นเครื่อง Next – Gen ก็เลยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของเกมพร้อมกับพัฒนากราฟฟิคอีกเล็กน้อย เพื่อมาลงให้กับเครื่อง Wii ด้วย การเล่นเกมนี้เราจะต้องใช้จอย Nunchuk ด้วยนะครับเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของลิงค์ ส่วน Wii Remote จะใช้สำหรับการพูดคุยกับผู้คน สำรวจของ ใช้ของ และที่ผมชอบมากๆคือการฟันดาบ เมื่อเราเหวี่ยง Wii Remote 1 ครั้งลิงค์ก็จะฟัน 1ที สามารถฟันต่อเนื่องได้เป็นชุดเลยละครับ ส่วนการหมุนตัวฟันนั้นเราจะต้องใช้จอย Nunchuk เข้าช่วย ถ้าเราควงจอย Nunchuk 1 รอบก็จะทำให้ลิงค์หมุนตัวฟัน 1 ครั้ง อันนี้จะใช้ได้ดีมากเมื่อถูกศัตรูรุมอยู่ และนอกจากการฟันดาบที่มีความแปลกใหม่แล้วการยิงธนูและการตกปลาก็มีความแปลก ใหม่ไม่แพ้กันด้วย โดยในการยิงธนูจะใช้ Wii Remote ไปตัวเล็งเป้าและจะใช้จอย Nunchuk เป็นตัวยิง ส่วนการตกปลาจะใช้ Wii Remote แทนคันเบ็ดซึ่งจะได้อารมณ์การตกปลาแบบใกล้เคียงของจริงอย่างมาก โดยร่วมแล้วผมว่าเป็นเกมที่ดึงความสามารถของ Nintendo Wii ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว ถึงจะมีบางคนว่ายังดึงความสามารถออกมาได้ไม่หมดก็เถอะ แต่สำหรับตัวผมคิดว่าเกมนี้ยอดเยี่ยมมากเลยละครับ ชอบจริงๆ | ||
 | ||
 | ||
 | ||
 | ||
มาสรุปส่งท้ายกันซักนิดนะครับ Nintendo Wii นั้นเป็นเครื่องเล่นเกมแห่งยุคจริงๆในด้าน Game Play นะครับ ส่วนทางด้านกราฟฟิคยังคงต้องพัฒนาอีกมากเมื่อเทียบกับ PS3 หรือ Xbox 360 แต่สำหรับคนที่เป็นสาวกของ Nintendo คงจะไม่แคร์ในเรื่องกราฟฟิคกันมากมายใช่ไหมละครับขอแค่มีลูกเล่นที่หลากหลาย มาทดแทนก็เพียงพอแล้ว ในด้านความสามารถของเครื่อง Wii นอกจากจะเอาไว้เล่นเกมแล้ว ตัวเครื่องยังมีโหมด Photo Channel เอาไว้สำหรับดูภาพซึ่งมีลูกเล่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยละครับ เราสามารถนำภาพถ่ายจากกล้อง Digital หรือมือถือมาเปิดดูในโหมดนี้ได้ทันที(ผ่านทาง SD Card) ซึ่งเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะดูแบบปกติคือกดเลื่อนเองหรือจะดูแบบ Slide Show ผมประทับใจเวลาดูแบบ Slide Show มากๆเลยครับเวลาเปลี่ยนภาพจะมีเอฟฟเคต่างๆเข้ามาช่วยด้วยทั้งซูม ทั้งเฟด ทั้งการเลื่อนภาพ แถมยังสามารถใส่เพลงเข้าไปเป็นแบล็คกราวได้อีกด้วย (เหมาะที่จะดูภาพกับครอบครัวจริงๆ)หรือถ้าเบื่อๆไม่รู้จะเล่นเกมอะไรในโหมด นี้ยังมีความสามารถในการเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นจิกซอร์ด้วยนะครับ(ต่อเล่นกัน เพลินไปเลย) ด้วยความสามารถที่มากมายแบบนี้น่าจะทำให้ Nintendo Wii เป็นเครื่องเกมที่ทำให้เพื่อนๆควักกระเป๋าซื้อกันอย่างไม่ยากเลยใช่ไหมละ ครับ ผมว่ามันคุ้มราคาจริงๆเลย | ||
 | ||
 | ||
| ขอขอบคุณร้าน Nadz Project ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบ | ||
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.flashfly.net/wii/ |
บทความ
