วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รีวิว PS4 Vs Xbox One หลังงาน E3

ยกสอง! PS4 Vs Xbox One หลังงาน E3 (รวมข้อมูลใหม่)




สวัสดีครับหลังจากที่ผมเคยเขียนบทความเปรียบเทียบระหว่าง PS4 vs Xbox One
มาแล้วบทความนั้นเป็นตอนที่เครื่อง Xbox One ได้เปิดตัวได้ไม่นานและก่อนงาน E3
ซึ่งข้อมูลบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากงาน E3
เช่นทางไมโครซอฟท์มีการกลับลำโดยได้การเปลี่ยนนโยบายและเงื่อนไขของ Xbox One ใหม่ทั้งหมด
และทางทั้งสองฝ่ายได้เปิดเผยสเปคเครื่องอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และเพราะข้อมูลหลายอย่างๆ
ได้เปลี่ยนโดยทางผมก็จะนำข้อมูลต่างๆเหล่านั้นมาเขียนใหม่ ในศึกเครื่องเกมคอนโซลที่ยังไม่จบกันง่ายๆ
(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน จุดประสงค์ของบทความนี้คือช่วยให้คุณตัดสิ้นใจที่จะซื้อ
PS4 หรือ Xbox One ไม่มีเจตนาที่จะทำให้แตกคอกัน)

Hardware & Spec
เรามาเริ่มกันด้วยฮาร์ดแวร์กันก่อนบทความก่อนนั้นผมเขียนตอนที่โซนี่ยังไม่เปิดตัวดีไซน์ของ PS4
วันนี้เราสามารถที่จะเปรียบเทียบฮาร์ดแวร์ของทั้งสองเครื่องได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเลย

 

มาดูขนาดของเครื่องกันก่อนเราจะเห็นชัดเลยว่าตัวเครื่อง PS4 นั้นเล็กและผอมกว่า Xbox One
ค่อนข้างมากแต่ความยาวตัวเครื่องของ PS4 จะยาวกว่า Xbox นิดหน่อยครับ ยังไม่พอครับ PS4
ยังมีพาวเวอร์ซัพพลายในตัวอีกด้วยในขนาดที่ Xbox One จะมีอแดปเตอร์ (Power Bridge)
อยู่ ข้างนอกเหมือน Xbox รุ่นก่อนๆ สำหรับเรื่องดีไซน์นั้นฝั่งโซนี่กินขาด แต่หลายคนสงใสมากว่าเครื่อง PS4 จะร้อนจนระบายไม่ทันหรือไม่ เพราะด้วยลักษณะเครื่องที่เล็กกว่า ซึ่ง Xbox One
มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ด้านบนตัวเครื่ิอง(แนวนอน) อันนี้ไม่มีใครตอบได้ครับ
ต้องรอมันออกมาวางขายจริงๆเสียก่อน แต่ว่าด้านลงของเครื่อง PS4 นั้น
จะเป็นช่องพัดลมระบายความร้อนเกือบทั้งหมด เหลือใว้แค่ช่องพอร์ตต่างๆเท่านั้น
ในระหว่างที่ Xbox One นั้นแทบจะไม่มีช่องระบายอากาศเลยเพราะ Xbox One จะระบายความร้อนจากด้านบนแทน.

 

สเปคอย่างเป็นทางการของทั้งสองเครื่องมีดังนี้ครับ

 

ซีพียูนั้นจริงๆแล้วเหมือนกันเลยและมาจากผู้ผลิตเดียวกันคือ AMD แต่ในเชิงเทคนิคแล้วระบบประมวลผลต่างๆ
ของทั้งสองเครื่องแตกต่างกันมากๆและยากที่จะมาทำการเปรียบเทียบกัน ลองย้อนหลับไปในสมัย Xbox 360 และ PS3,
PS3 นั้นพัฒนายากกว่า Xbox 360 มากนักพัฒนาหลายค่ายต้องใช้เวลาศึกษามันเพราะว่า PS3 ใช้โปรเซสเซอร์แบบเซล์
ซึ่งมีความแรงมากแต่พัฒนาได้ยากในขนาดที่ Xbox 360 ใช้โปรเซสเซอร์คล้ายแบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์
จึงทำให้พัฒนาไปได้เร็ว. แต่ในยุคใหม่สถานการณ์นั้นเปลี่ยนไปเนื่องจากสองใช้ซีพียูเหมือนกันแต่สิ่งที่แตกต่าง
นั้นอยู่ที่จีพียูหรือโปรเซสเซอร์ที่ประมวลผลภาพ PS4 นัั้นมีถึง 18 คอร์ซึ่งถ้าเทียบกับ Xbox One แล้วมีแค่ 12 คอร์
เท่านั้นและถ้าเราคำนวนออกมาแล้ว PS4 จะมีพลังการประมวลผลมากกว่า Xbox One ถึง 50 % เลยทีเดียว.

 

แรม(RAM) โซนี่ได้บทเรียนจาก PS3 เยอะมากซึ่งแรมของ PS4 เป็นแบบ unified หรือที่ว่านักพัฒนา
สามารถใช้ได้แบบไม่จำกัดเหมือนกับ Xbox One และ Xbox 360 แต่สิ่งที่แตกต่างกับ Xbox One นั้น
คือโซนี่เลือกใช้แรมแบบ DDR5 ที่ใช้ในจีพียูสูงๆและมีแบนวิธที่สูง ในขณะที่ Xbox One ใช้แรมแบบ DDR3
ซึ่งมีแบนวิธที่ต่ำแต่เสถียนกว่า ปัญหาของไมโครซอฟท์คือต้องแก้ปัญหาแบนวิธโดยใช้พื้นที่
ที่เหลือใส่ ESRAM ขนาด 32 MB แต่มันอาจจะทำให้พัฒนานาน เพราะซับซ้อนกว่า PS4 ถ้าใช้วิธีนี้ก็สามารถ
แก้ปัญหาเรื่องแบนวิธได้ งั้นแล้วไมโครซอฟท์ไม่ใช้ DDR5 ไปเลยล่ะ ก็เพราะว่าตอนที่ไมโครซอฟท์ออกแบบ
เครื่องนั้นมันยังแพงอยู่มากและไม่แน่ใจว่า DDR5 พร้อมใช้หรือยัง ในขณะที่โซนี่วางแผนว่าจะใช้แรม 4 GB DDR5
แต่โชคดีที่ตอนนั้นราคาแรมลงพอดีเลยเปลี่ยนใจมาใช้ 8 GB ทำให้มีพื้นที่เหลือเยอะและทำให้จีพียูและระบบ
ต่างๆทำงานเร็วกว่า Xbox One โดยไมโครซอฟท์นั้นเปลี่ยนไม่ทันเพราะถ้าหากเปลี่ยนต้องมาออกแบบกันใหม่ทั้งหมด.

Service

 

ด้านบริการต่างของบนทั้งสองเครื่องสำหรับ PS4 แล้วเป้าหมายหลักๆนั้นจะมุ่งไปที่เกมซะส่วนใหญ่เพราะได้
เรียนรู้จาก PS3 ที่โซนี่พยายามที่จะรวมความบันเทิงไว้ในเครื่องเดียวจนทำให้ระบบเกมต่างนั้นไม่ค่อยสเถียนซักเท่าไร่
แต่ Xbox One กับมุ่งไปที่จะรวมความบันเทิงไว้ในเครื่องเดียวเช่น สามารถดูรายการทีวีระหว่างเล่นเกม
เป็นต้นและจะมีค่าบริการต่างๆอีกมากหมาย สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองเครื่องคือ ต้องเสียค่าบริการในการเล่นออนไลน์
ในราคาที่พอๆกัน ทั้งสองเครื่องยังมีบริการสตรีมเกมจากเซิฟเวอร์ (Cloud Gaming Service), ระบบแชร์ในเกม
สำหรับของ PS4 จะสามารถอัพโหลดรูปและวิดีโอต่างๆลง Facebook, Twitter, Flicker และ Youtube ได้โดยตรง
แต่สำหรับ Xbox One นั้นยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด และสุดท้ายทั้งสองเครื่องรองรับจอที่สองคือ Xbox One
จะใช้ระบบที่เรียกว่า Smart Glass ซึ่งเราสามารถที่จะใช้จอแท็บเล็ตใช้เล่นเกมได้ สำหรับ PS4 จะใช้ Remote Play
จากเครื่อง PS Vita ผ่าน Wi-Fi ครับ สิ่งที่แตกต่างคือ PS4 จะมีแอพที่สามารถใช้บนสมาร์โฟนและแท็บเล็ต
ระบบ Android และ iOS ซึ่งแอพนี้เราสามารถดูข่าวล่าสุดเกี่ยวกับเพื่อนเรา, แชทระหว่างเพื่อนเล่นเกม
แบบ Real-Time, สามารถเลือกซื้อเกม PS4 ผ่านแอพนี้ได้ และเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเล่นเกมต่างๆผ่านแอพนี้ได้
สำหรับอุปกรณ์เสริมที่สามารถเล่นเกมต่างๆผ่านแอพได้ Xbox One ก็มีแต่ไม่สมารถที่จะดาวน์โหลดเกม
และแชทกับเพื่อนๆในเกมได้.

 

ระบบของทั้งสองเครื่อง ก่อนหน้า Xbox One มีนโยบายที่เรียกว่า DRM คือเราต้องต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา,
ทุกครั้งที่เล่นเกมระบบจะคอยเช็คว่าเครื่องได้ต่ออินเตอร์เน็ตหรือไม่ ถ้าไม่ต่ออินเตอร์เน็ตภายใน 24 ชั่วโมง
จะไม่สามารถเล่นเกมต่อไปได้ และไม่สามารถซื้อขายแผ่นมือสองได้แต่หลังจากงาน E3 ยอดจอง Xbox One นั้น
ไม่เป็นไปตามเป้าบวกกับแฟนๆที่หันไปจอง PS4 ทำให้ ไมโครซอฟท์กลับลำ หรือ เปลี่ยนนโยบายและเงื่อนไขทั้งหมด
คือ เราสามารถเล่นเกมแบบออฟไลน์ได้ โดยต้องต่ออินเตอร์เน็ตครั้งเดียวตอนที่ซื้อเกมและเล่นเป็นครั้งแรก
ยังสามารถซื้อขายเกมมือสองได้อีกด้วย แต่ทางไมโครซอฟท์ไม่ได้บอกว่า Xbox One ต้องต่อ Kinect ตลอดเวลา
เพราะว่าไม่งั้นจะไม่สามรถเล่นเกมได้ Kinect คอยฟังคุณตลอดเวลาที่คุณเปิดเครื่อง และไม่สามารถเปิด Kinect ได้
คุณทำได้แค่หยุดมันในเกมที่ไม่ต้องใช้ Kinect. สำหรับทาง PS4 นั้นอย่างเคยเกมเกมแบบออฟไลน์ได้ทันทีแบบไม่ต้องกังวล,
ซื้อขายแผ่นมือสองได้ ไม่บังคับใช้กล้อง PS Eye และเกมแนวอินดี่ หรือ เกมขนาดเล็กสามารถเล่นออนไลน์ได้แบบฟรีๆครับ.

Camera & Motion Control (กล้องและระบบจับการเคลื่อนไหว)

 

Xbox One จะมาพร้อมกับกล้อง Kinect ตัวใหม่ซึ่งสามารถจับความเคลื่อนไหวได้มากถึง 6 คน,
สามารถเล่นในห้องมืดๆได้, สามารถจับวัตถุแบบ 3D ได้ และเราสามารถควบคุมด้วยเสียงได้
ยังไม่หมดเจ้ากล้อง Kinect ตัวใหม่นี้ยังจับคลื่นและจังหวะหัวใจได้ด้วย หรือเวลาคุณเครียด
เจ้า Kinect จะสามารถรับรู้ได้ สำหรับ PlayStation Eye หรือ PS Eye ต้องซื้อแยกในราคา $59
หรือ 1,800 บาท​ โดยโซนี่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของกล้องไดๆครับ แต่ผมคิดว่ากล้อง PS Eye
สู้ของไมโครซอฟท์ไม่ได้ครับ เพราะดูสเปคกล้องก็กินขาดแล้ว. สำหรับศึกระหว่างจอย PS4
และ Xbox One นั้นเคยเขียมาแล้วถ้าใครยังไม่ได้อ่าน คลิกที่นี่

Exclusive Game

 

มีเกมที่จะออกเฉพาะ Xbox One นั้นมีถึง 13 เกมมีเยอะกว่า PS4 มากในขนาดที่โซนี่มีเกมที่จะออก
เฉพาะเครื่อง PS4 อยู่แค่ 7 เกมเท่านั้นอย่างไรก็ตามในปีหน้าโซนี่ประกาศว่าจะมีเกมที่พัฒนาและ
ออกเฉพาะบน PS4 ถึง 40 เกมจาก 140 เกมที่จะออกปีหน้าแต่ก็ยังเดาอะไรไม่ได้สำหรับส่วนนี้ต้องยกให้
Xbox One ไม่เลยเพราะเกมที่ออกแต่ละเกมนั้นมี่แต่เกมฟอร์ตยักษ์ทั้งนั้นมาดูกันเลยว่ามีเกมอะไรบ้าง
(ที่เป็นตัวหนาคือเกมที่จะวางจำหน่ายวันแรกพร้อมเครื่องทั้งสอง Lauch Title)


 


Price & Release Date (ราคาและวันกำหนดออก)



หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าแต่ละเครื่องราคาเท่าไร่และกำหนดออกเมื่อไร่แต่ว่าผมได้รับ inbox มากมาย
เกี่ยวกับราคาของเครื่องและจะออกในประเทศไทยเมื่อไร่ วันนี้ผมมีคำตอบ. Xbox One กำหนดออก
ในเดือนพฤษจิกายนปีนี้ใน 21 ประเทศทั่วโลกยกเว้นญี่ปุ่น และ ยังไม่มีกำหนดออกในเมืองไทย
ในราคา $499 เหรียญหรือ 15,000 บาทเปิดจองได้แล้ววันนี้ ส่วน PS4 จะออกปลายปีนี้ไม่มีวันกำหนดที่แน่ชัด
เพราะทางโซนี่กล่าวไม่แน่ไม่นอนว่าจะผลิตตามจำนวนที่กำหนดหรือไม่ และจะออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา
และประเทศทางฝั่งยุโรปก่อน (สำหรับประเทศญี่ปุ่นจะประกาศออกที) ในราคา $399 เหรียญหรือ 12,000 บาท
ไม่รวมกล้อง PS Eye และยังไม่มีกำหนดออกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ผมคาดว่าอีกซักปีสองปีนะครับ
แต่ถ้าใครต้องการก่อนก็สามารถจองทั้ง PS4 และ Xbox One ผ่านทาง Amazon ได้ครับเขาส่งทั่วโลกในราคา 12,000 บาท
สำหรับ PS4 และ 15,000 บาทสำหรับ Xbox One.

สรุป



จากบทความนี้ใครหลายๆคนอาจจะรู้ข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมมากขึ้นเกี่ยวกับทั้งสองเครื่องและเครื่องไหน
เหมาะกับคุณ แต่ถ้าถามผมว่าใครชนะ(แบบเป็นกลาง)? นะตอนนี้ผมขอบอกว่า PS4 ชนะครับเพราะด้วยสเปค
ที่สูงกว่าในราคาที่ถูกกว่าเครื่อง Xbox One และยังได้ใจชาวคอเกมส์ไปเยอะมากทำให้ยอดจองถล่มถลาย
แต่สำหรับ Xbox One นั้นยังมีเกมฟอร์ตยักษ์อยู่หลายเกม และผมว่าไมโครซอฟท์ยังมีเวลาอีกเยอะที่จะเปลี่ยน
หรือคิดแผนที่จะเอาชนะใจคอเกมส์ เพราะว่าเครื่องทั้งสองยังไม่ออกด้วยซ้ำซึ่งเราต้องดูกันต่อไปว่า
โซนี่จะกลับมาครองเจ้าแห่งเกมคอนโซลเหมือนสมัย PS2 หรือไม่ หรือว่า ไมโครซอฟท์
จะยังรั้งต่ำแหน่งเจ้าแห่งเกมคอนโซลต่อไป……

ที่มา : http://play4thai.com/wp/2013/07/xbox-one-vs-ps4-round-2/

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger